โครงสร้าง ส.ม.ว.

โครงสร้าง ส.ม.ว.

การดําเนินการสมาคม

๑. ให้มีกรรมการคณะหนึ่ง ทําหน้าที่บริหารกิจการของสมาคม มีจํานวนอย่างน้อย ๑๕ คน อย่างมากไม่เกิน ๒๑ คน คณะกรรมการนี้ได้มาจากการเลือกตั้งของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม และให้ผู้ที่ได้รับ เลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่เลือกตั้งกรรมการเป็นนายกสมาคม ๑ คน และอุปนายก ๒ คน สําหรับตําแหน่ง กรรมการในตําแหน่งอื่นๆให้นายกเป็นผู้แต่งตั้งที่ได้รับเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่เข้าดํารงตําแหน่งต่างๆ ของ สมาคมตามที่กําหนดไว้ซึ่งตําแหน่งของกรรมการสมาคมมีตําแหน่งและหน้าที่ โดยสังเขปดังต่อไปนี้

     ๑.๑ นายกสมาคม ทําหน้าที่เป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการของสมาคม เป็นผู้แทนสมาคมใน การติดต่อกับบุคคลหรือองค์กรภายนอก และทําหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการ และการประชุม ใหญ่ของสมาคม

     ๑.๒ อุปนายก ทําหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารกิจการสมาคมปฏิบัติตามหน้าที่นายกสมาคมได้มอบหมาย และทําหน้าที่แทนนายกสมาคมเมื่อนายกสมาคมไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ การทําหน้าที่แทนนายกสมาคมให้อุปนายกตามลําดับตําแหน่งเป็นผู้กระทําการแทน

     ๑.๓ เลขานุการ มีหน้าที่ติดต่อกับสมาชิก และบุคคลภายนอกของสมาคม นัดหมายการประชุมบันทึกการประชุมเสนอรายงาน แสดงถึงกิจการของสมาคมต่อที่ประชุมใหญ่ประจําปีและกิจการอื่นๆตามที่ นายกสมาคม หรือคณะกรรมการบริหารมอบหมาย

     ๑.๔ เหรัญญิก มีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดของสมาคม เป็นผู้จัดบัญชีรายรับ รายจ่าย บัญชีงบดุลของสมาคม และเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ

     ๑.๕ ปฏิคม มีหน้าที่ให้การต้อนรับแขกของสมาคม เป็นหัวหน้าในการจัดเตรียมสถานที่ของ สมาคม และจัดเตรียมสถานที่ประชุมต่างๆของสมาคม

     ๑.๖ นายทะเบียน มีหน้าที่เกี่ยวกับทะเบียนสมาชิกทั้งหมดของสมาคม  ประสานงานกับเหรัญญิก ในการเรียกเก็บเงินค่าบํารุงสมาคมจากสมาชิก

     ๑.๗ ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่เผยแพร่กิจการ ชื่อเสียงของวิชาชีพ และเกียรติคุณของสมาคมให้สมาชิกและบุคคลโดยทั่วไปให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย

     ๑.๘ กรรมการตําแหน่งอื่น ตามความเหมาะสม ของคณะกรรมการเห็นสมควรกําหนดให้มีขึ้นโดยมีจํานวนเมื่อรวมกับตําแหน่งกรรมการตามข้างต้น แล้วจะต้องไม่เกินจํานวนที่ข้อบังคับกําหนดไว้แต่ถ้า คณะกรรมการมิได้กําหนดตําแหน่งให้ถือว่าเป็นคณะกรรมการกลางคณะกรรมการชุดแรก ให้ผู้เริ่มการจัดตั้งสมาคมเป็นผู้ได้เลือกตั้งประกอบด้วย นายกสมาคมและคณะกรรมการอื่นๆ ตามจํานวนที่เห็นสมควรตามข้อบังคับของสมาคม

๒. คณะกรรมการของสมาคมสามารถอยู่ในตําแหน่งได้คราวละ ๔ ปี และเมื่อคณะกรรมการอยู่ ครบกําหนดตามวาระแล้ว เป็นติดต่อกันไม่เกิน ๒ วาระเมื่อครบ ๒ วาระ ให้จับฉลากออกครึ่งหนึ่ง แต่ คณะกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการแล้วให้คณะกรรมการที่ครบกําหนด ตามวาระรักษาการไปพลาง จนกว่าคณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการ ก็ให้ทํา การส่งและรับมอบงานกันระหว่างคณะกรรมการชุดเก่า และคณะกรรมการชุดใหม่ให้เสร็จสิ้นภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการ

๓. ตําแหน่งกรรมการสมาคม  ถ้าว่างลงก่อนครบกําหนดตามวาระให้คณะกรรมการแต่งตั้ง

สมาชิก ผู้ได้รับการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ตามลําดับรองลงไปแทนผู้ดํารงตําแหน่งแทน อยู่ในตําแหน่งได้ เท่ากับวาระของผู้ที่ตนแทนเท้านั้น

๔. กรรมการอาจจะพ้นจากตําแหน่งซึ่งมิใช่เป็นการอกตามวาระด้วยเหตุผลต่อไปนี้ คือ

     ๔.๑ ลาออก

     ๔.๒ สมาชิกภาพของสมาชิกให้สิ้นสุดลงด้วยเหตุดังต่อไปนี้

          ๔.๒.๑ ตาย

          ๔.๒.๒ ลาออก โดยยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการได้ พิจารณาอนุมัติ และสมาชิกผู้นั้นได้ชําระหนี้สินที่ยังติดค้างอยู่กับสมาคมเป็นที่เรียบร้อย

          ๔.๒.๓ ขาดคุณสมบัติของการเป็นสมาชิก

          ๔.๒.๔ ที่ประชุมใหญ่ของสมาคม หรือคณะกรรมการได้พิจารณาลงมติให้ลบชื่อออกจากทะเบียน เพราะสมาชิกผู้นั้นได้ประพฤติตนนําความเสื่อมเสียมาสู่สมาคม

          ๔.๒.๕ ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้ออกจากตําแหน่ง

๕. กรรมการที่ประสงค์จะลาออกจากตําแหน่งให้ยื่นใบลาออกเป็นลายลักษณ์อักษรต่อ คณะกรรมการ และให้พ้นจากตําแหน่งเมื่อคณะกรรมการมีมติให้ออก

๖. อํานาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ

     ๖.๑ มีอํานาจออกระเบียบปฏิบัติต่างๆเพื่อให้สมาชิกได้ปฏิบัติโดยระเบียบปฏิบัตินั้นจะต้องไม่ขัด ต่อข้อบังคับฉบับนี้

     ๖.๒ มีอํานาจแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าหน้าที่ของสมาคม

     ๖.๓ มีอํานาจแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษาหรืออนุกรรมการได้ แต่กรรมการที่ปรึกษาหรือ อนุกรรมการได้ แต่กรรมการที่ปรึกษาหรืออนุกรรมการจะสามารถอยู่ในตําแหน่งได้ไม่เกินวาระของ คณะกรรมการที่แต่งตั้ง

     ๖.๔ มีอํานาจเรียกประชุมใหญ่สามัญประจําปี และประชุมใหญ่วิสามัญ

     ๖.๕ มีอํานาจแต่งตั้งกรรมการในตําแหน่งอื่น ที่มิได้กําหนดไว้ในข้อบังคับนี้

     ๖.๖ มีอํานาจบริหารกิจการของสมาคม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตลอดจนมีอํานาจอื่นๆ ตามที่ข้อบังคับได้กําหนดไว้

     ๖.๗  มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจการทั้งหมด  รวมทั้งการเงินและทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคม

     ๖.๘ มีหน้าที่จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ ตามที่สมาชิกสามัญจํานวน ๑ ใน ๕ ของสมาชิก ทั้งหมดหรือสมาชิกจํานวนไม่น้อยกว่า ๑๐๐ คน ได้เข้าชื่อร้องขอให้จัดประชุมใหญ่วิสามัญขึ้น ซึ่งการนี้จะต้อง จัดให้การประชุมใหญ่วิสามัญขึ้นภายใน ๓๐ วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องขอ

     ๖.๙ มีหน้าที่จัดทําเอกสารหลักฐานต่างๆทั้งที่เกี่ยวกับคดีทรัพย์สินและการดําเนินกิจกรรมต่างๆ ของสมาคมให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ และสามารถจะให้สมาชิกตรวจดูได้ เมื่อสมาชิกร้องขอ

     ๖.๑๐ จัดทําบันทึกการประชุมต่างๆของสมาคมเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน และจัดส่งให้สมาชิกได้รับทราบ

     ๖.๑๑ มีหน้าที่อื่นๆตามที่ข้อบังคับได้กําหนดไว้

๗. คณะกรรมการจะต้องประชุมกันอย่างน้อย ๓ เดือน/ครั้ง โดยให้จัดขึ้นไม่เกินวันสิ้นเดือนของเดือนนั้น ทั้งนี้เพื่อปรึกษาหรือเกี่ยวกับการบริหารกิจการของสมาคม

๘. การประชุมคณะกรรมการจะต้องมีกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการ ทั้งหมด จึงจะถือว่าครบองค์ประชุม มติของที่ประชุมคณะกรรมการถ้าข้อบังคับมิได้กําหนดไว้ เป็นอย่างอื่นก็ ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์แต่ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด

๙. ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้านายกสมาคม และอุปนายกสมาคมไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ให้กรรมการที่เข้าประชุมในคราวนั้นเลือกตั้งกันเอง เพื่อให้กรรมการคนใดคนหนึ่ง ทําหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น